สาขาเทคโนโลยีโลจิสติกส์และการจัดการขนส่ง คณะเทคโนโลยีสังคม มหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจันทบุรี ได้ดำเนินการจัดทำบล็อกดังกล่าวนี้ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการ คือ 1.เพื่อรวบรวมบทความที่น่าสนใจด้านโลจิสติกส์และการจัดการระบบซัพพลายเชนให้กับบุคคลที่สนใจทราบ 2.เพื่อประชาสัมพันธ์งานวิจัยของนักศึกษาในสาขาให้กับบุคคลทั่วไปได้ทราบ ซึ่งมีทั้งส่วนที่มาจากการศึกษาในสถานประกอบการของสหกิจศึกษา และการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง

วันอังคารที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554

25 อันดับสุดยอด Supply Chains ของโลกประจำปี 2010

 25 อันดับสุดยอด Supply Chains ของโลกประจำปี 2010
เป็นสิ่งที่ไม่น่าแปลกใจเลยหากจะกล่าวว่า  บริษัทที่เป็นสุดยอดของการบริหารองค์กรที่ดี  ก็จะเป็นผู้นำด้าน supply chain และการสร้างกำไรด้วย 
อาจกล่าวได้ว่ากลุ่มบริษัทที่อยู่ใน 25 อันดับสุดยอด supply chain ก็จะถูกจัดให้เข้าอยู่กลุ่มบริษัทของ Fortune 500  ด้วยเช่นกัน  ซึ่งก็เห็นได้อย่างเป็นรูปธรรมในเรื่องของการสร้างกำไรได้สูงสุด แต่แท้ที่จริงแล้วหากพวกเขาไม่สร้างเครือข่าย supply chain ที่เข้มแข็งให้กับตนเองแล้ว กลุ่มบริษัทเหล่านี้ก็จะไม่สามารถมายืนในจุดนี้ได้  โดยแสดงให้เห็นว่าถึงแม้คุณจะผลิตสินค้าได้ดีเพียงใด  หากคุณไม่สามารถส่งสินค้าคุณข้ามโลกไปยังลูกค้า หรือรับทราบความต้องการของลูกค้าที่แท้จริงได้นั้นก็อาจไม่สามารถประสบความสำเร็จได้


บริษัท Apple ยังได้ชื่อว่าเป็นสุดยอด supply chain ของโลกประจำปี 2009 อยู่ และจัดอยู่ในอันดับที่ 56 ของ Fortune 500  ซึ่งก่อนหน้านี้ สินค้าของ Apple จัดทำขึ้น เพื่อขายภายในประเทศ  โดยใช้เครือข่าย supply chain ที่มีความเข้มแข็งและกระตือรือร้น  ชิ้นส่วนของอุปกรณ์ที่อยู่ใน iPhone และ iPod ถูกผลิตขึ้นในประเทศสิงคโปร์และไต้หวัน  ก่อนจะนำมาประกอบเป็นสินค้าสำเร็จที่ประเทศจีน  ซึ่งกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าสินค้า iPhone กว่า 4 รุ่นล้วนแต่ถูกผลิตขึ้นจากต่างประเทศ  และใช้วิธีนำเข้าและส่งออกระหว่างประเทศเป็นจำนวนหลาย  ซึ่งอาจจะมากกว่าการเดินทางระหว่างประเทศที่แต่ละคนเคยเดินทาง
บริษัท Apple ไม่ใช่บริษัทด้าน IT เพียงบริษัทเดียวที่มี supply chain สลับซับซ้อน  แต่ทั้งนี้ยังรวมถึงบริษัท Dell (5), Samsung  Electrics (7) , IBM (8), Research in  Motion (9), Microsoft (12) , Hewlett-Packard (15), Intel(18) และ Nokia (19)  ด้วย


Wal-Mart ห้างค้าปลีกสไตล์ Modern Trade ที่ถูกยกย่องเรื่อง Low Price มาเป็นเวลานาน และถูกจัดอยู่ในหนึ่งในสี่บริษัทมี supply chain ดีที่สุดในโลก  ซึ่งหากพิจารณาแล้วเรื่อง supply chain สำหรับ Wal-Mart อาจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของบริษัท  โดยในหลายปีที่ผ่านมาห้างค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ แห่งนี้ได้ประกาศแผนที่จะลดปริมาณการเรือนกระจกมากว่า 20 ล้านตัน ตลอดทั้ง supply chain  ในปี 2015 ซึ่งเท่ากับการนำรถยนต์ออกจากถนนจำนวน 3.8 ล้านคันในเวลา 1 ปี ซึ่งคิดเป็นมากกว่า 1 ในสามของรถยนต์ทั้งประเทศไทย(รถยนต์ภายในประเทศไทย สิ้นสุดปี 2553 มีประมาณ 10 ล้านคัน)  นอกจากนี้บริษัทยังถูกจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของ Fortune 500  ด้วย  โดยสามารถรายได้มากขึ้นกว่าจากปีก่อนเป็น 14.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ( 4.63 แสนล้านบาท)  จัดอยู่ในอันดับ 3 ของบริษัทที่สามารถสร้างกำไรได้มากที่สุดของโลก
                นอกจากนี้บริษัทอื่นๆ ที่น่าสนใจได้แก่  บริษัทเครื่องดื่ม PepsiCola (5)  และบริษัท Coca-Cola (13)  ตามด้วยบริษัทซื้อขายสินค้าบนอินเตอร์เนท Amazon.com (10)  และบริษัทอุปกรณ์กีฬา Nike (16) 
                รวมสุดยอดกลุ่ม supply chain ของโลกประจำปี 2010 ดังนี้
1. Apple                                              Industry: Computer Hardware
CEO: Steve Jobs                                Fortune 500 Ranking: 56


2. Procter & Gamble                       Industry: Consumer Goods
CEO: Bob McDonald                       Fortune 500 Ranking: 22
No. 4 Most Profitable Company (2009 profits: $13.4 billion)


3. Cisco                                                 Industry: Computer Networking
CEO: John Chambers                       Fortune 500 Ranking: 58


4. Wal-Mart Stores                          Industry: Retail
CEO: Mike Duke                               Fortune 500 Ranking: 1
No. 3 Most Profitable Company (2009 profits: $14.3 billion)

5. Dell                                                    Industry: Computer Systems
CEO: Michael Dell                            Fortune 500 Ranking: 38

6. PepsiCo                                        Industry: Food, Beverages
CEO: Indra Nooyi                             Fortune 500 Ranking: 50

7. Samsung Electronics                  Industry: Consumer Electronics
CEO: Lee Yoon-woo                        Fortune 500 Ranking: N/A

8. IBM                                                   Industry: Computer Systems         
CEO: Samuel J. Palmisano             Fortune 500 Ranking: 20

9. Research in Motion                     Industry: Telecommunications (Black Berry)
Co-CEOs: Mike Lazaridis, Jim Balsillie                     Fortune 500 Ranking: N/A


10. Amazon.com                               Industry: Online retail
CEO: Jeffrey Bezos                           Fortune 500 Ranking: 100

11. McDonalds                                   Industry: Fast Food
CEO: James Skinner                         Fortune 500 Ranking:108

12. Microsoft                                      Industry: Computer Systems
CEO: Steve Ballmer                         Fortune 500 Ranking: 36
No. 2 Most Profitable Company (2009 profits: $14.6 billion)

13. Coca-Cola                                    Industry: Food, Beverage
CEO: Muhtar Kent                            Fortune 500 Ranking: 72
No. 18 Most Profitable Company (2009 profits: $6.8 billion)

14. Johnson & Johnson                  Industry: Healthcare
CEO: William C. Weldon               Fortune 500 Ranking: 33
No. 10 Most Profitable Company (2009 profits: $12.3 billion)

15. Hewlett-Packard                       Industry: Computer Systems
CEO: Léo Apotheker                        Fortune 500 Ranking: 10
No. 17 Most Profitable Company (2009 Profits: $7.7 billion)

16. Nike                                                Industry: Clothing
CEO: Mark Parker                            Fortune 500 Ranking: 124

17. Colgate-Palmolive                     Industry: Personal Products
CEO: Ian Cook                                   Fortune 500 Ranking: 151

18. Intel                                                Industry: Computer Systems
CEO: Paul Otellini                            Fortune 500 Ranking: 62

19. Nokia                                             Industry: Telecommunications
CEO: Olli-Pekka Kallasvuo            Fortune 500 Ranking: N/A

20. Tesco                                              Industry: Retail
CEO: Sir Terry Leahy                     Fortune 500 Ranking: N/A

21. Unilever                                        Industry: Conglomerate
CEO: Paul Polman                            Fortune 500 Ranking: N/A

22. Lockheed Martin                       Industry: Aerospace
CEO: Robert Stevens                        Fortune 500 Ranking: 44


23. Inditex                                           Industry: Fashion, Retail
CEO: Pablo Isla                                 Fortune 500 Ranking:

24. Best Buy                                        Industry: Retail
CEO: Brian Dunn                              Fortune 500 Ranking: 45

25. Sclumberger                                Industry: Oilfield Services
CEO: Andrew Gould                        Fortune 500 Ranking: N/A

              ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า บริษัท Toyota ไม่ติดอันดับ 1 ใน 25 ประจำปี 2010 ทั้งที่ในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมาบริษัทติดอันดับ 1 ใน 10 มาโดยตลอด  นอกจากนี้บริษัทด้านคอมพิวเตอร์ และการสื่อสาร ยังครองตำแหน่งใน 25 แรกเป็นจำนวนมาก  โดยเมื่อเทียบกับปี 2007 - 2009 บริษัทส่วนใหญ่ที่ติด 25 อันดับแรกยังค่อนข้างคละกันระหว่างสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ การสื่อสาร ร้านค้าปลีก และสินค้าอุปโภคบริโภค  ซึ่งชี้ให้เห็นว่ายุคของบริษัทคอมพิวเตอร์ และการสื่อสาร ยังคงมีบทบาทเป็นอย่างมากต่อการเคลื่อนไหวของ supply chain โลก
          และในปี 2011 นี้ยังคงต้องดูต่อไปว่าหลังจากเริ่มยุคของ Social Media อย่างจริงจังแล้ว  เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นกับ supply chain ของโลกบ้าง และอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เคยติดอันดับ 25 supply chain โลก จะสามารถกลับเข้าสู่วงจรนี้อีกได้หรือไม่ ?